วอลเปเปอร์ถือเป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มความสวยงามและบรรยากาศให้ภายในบ้านได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยปกปิดร่องรอยบริเวณผนังที่ไม่ต้องการ
ซึ่งการตกแต่งวอลเปเปอร์ไม่ควรดูแค่ความสวยเพียงอย่างเดียว เพราะการเตรียมผนังก่อนติดตั้งก็มีความสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามเช่นกันค่ะ
เบื้องต้นควรมีการเช็คความเรียบร้อยของผนังที่จะทำการติดวอลเปเปอร์ ว่ามีความเสียงหายในส่วนใดบ้าง เพราะเมื่อมีการติดตั้งวอลเปเปเปอร์ไปแล้ว จะก่อให้เกิด
ความเสียหาย และอาจทำให้เสียเงินซ้ำซ้อนอีกด้วย ซึ่งโดยหลักๆ จะมี 4 สิ่งด้วยกันที่ควรดู คือ
1.) ความเรียบของผนัง/ปูน แนะนำให้เช็คพื้นผิวผนังก่อนการติดวอลเปเปอร์ เพราะส่วนใหญ่มักพบผนังมีเม็ดทราย กรวดเล็กๆ รวมไปถึงเศษปูนต่างๆ อยู่บริเวณผนัง
ซึ่งหากมีการติดวอลเปเปอร์ทับลงไป ก็จะทำให้วอลเปเปอร์นั้นไม่เรียบเนียน ฉะนั้นควรมีการปรับผนังให้เรียบ โดยใช้กระดาษทรายขัดหรือหินขัดผนัง เศษทราย กรวด หิน ปูน
ที่ติดอยู่บริเวณผนังออกให้หมด จนเรียบเนียน แล้วทาสีรองพื้นสัก 1 รอบ เพื่อไม่ให้สีของปูนทำให้วอลล์เปลี่ยนสีหรือเพี้ยน จากนั้นจึงทำการติดวอลเปเปอร์ได้
2.) รอยร้าว ถือเป็นสิ่งที่สามารถมองเห็นได้ง่าย ซึ่งหากพบเห็นควรทำการแก้ไข ทั้งนี้ควรเช็คด้วยว่ารอยร้าวนั้น จะมีการขยายหรือรุกลามในอนาคตอีกหรือไม่ เพื่อเป็น
ตัวช่วยในการประกอบการตัดสินใจ เพราะเมื่อติดวอลเปเปอร์ไปแล้วจะ ทำให้ไม่เห็นรอยร้าวต่างๆ ที่อาจส่งผลเสียได้
3.) น้ำรั่วซึม ตามผนังซึ่งอาจจะมาจากรอยร้าวหรือจุดเชื่อมต่อจากห้องที่ติดกัน เช่น ห้องน้ำ หรือระเบียง โดยบริเวณที่ต้องระวังที่สุดนั้นก็คือ ขอบวงกบ เพราะมีการ
เชื่อมต่อกันระหว่างหน้าต่างกับผนัง และยังเป็นส่วนที่พบเจอน้ำรั่วซึมมากที่สุด
4.) สีร่อน ในส่วนนี้จะดูค่อนข้างยาก ซึ่งเกิดจากการทาสีทับกันจำนวนหลายชั้นจนสีมีความหนา เมื่อติดวอลเปเปอร์ทับลงไปก็จะทำให้วอลเปเปอร์นั้น ดีดตัวออกจาก
ผนังหรือวอลเปเปอร์เปิดนั้นเอง โดยเฉพาะบริเวณตามขอบ หรือ มุม จุดสังเกตง่ายๆ คือ สีมีการหลุดเป็นแผ่นๆ หรือไม่ก็ติดกับตัววอลเปเปอร์ออกมา
ทั้งนี้หากเกิดปัญหาดังกล่าว แล้วมีการติดวอลเปเปอร์จนทำให้เกิดความเสียหาย หลักๆ ผู้รับผิดชอบจะเป็นทางโครงการ แต่ก็ไม่เสมอไปขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่ทางโครงการ
กำหนด ฉะนั้นก่อนตัดสินใจติดวอลเปเปอร์ ควรเช็ดสัญญา หรือ เงื่อนไขระยะเวลาการรับประกันให้ครบถ้วน ละเอียดรอบครอบ เพื่อป้องกันการเสียเงินซ้ำซ้อน ซึ่งถ้าคิดจะติด
วอลเปเปอร์ บางครั้งการตรวจและแก้ไขสีจึงอาจจะไม่จำเป็น เพราะเจ้าของโครงการคงไม่ทำการขัดสีเดิมออกและทำการสกิมผนังให้ ส่วนใหม่มักเป็นการทาทับ
ไม่ใช่ว่าทุกพื้นผิว วอลเปเปอร์จะสามารถติดได้ ฉะนั้น ควรเช็คกับทางช่างว่าพื้นผิวแบบไหนสามารถติดวอลเปเปอร์ได้ และ แบบไหนที่ติดไม่ได้ อย่างวัสดุที่มีผิวมัน
อาทิ กระเบื้อง กระจก หินอ่อน หรือพื้นผิวที่ทาด้วยสีน้ำมัน วัสดุเหล่านี้มักจะไม่ติดวอลเปเปอร์ เพราะอาจทำให้การเกิดปัญหาภายหลัง ไม่ว่าจะเป็น
วอลเปเปอร์หลุดร่อน หรือติดไม่อยู่นั่นเอง
ในส่วนของประเภทไม้อัดก็ต้องมั่นใจว่าไม้มีความหนา มีโครงแน่นหนา และมีการทาสีรองพื้นสีขาว เพื่อกันการที่ไม้จะโก่งหรือแอ่น อีกทั้งผนังที่เป็นส่วนต่อเนื่อง
กับพื้นผิวที่มีการทาสี ต้องทำการฉาบรอยต่อให้เนี้ยบ และทำการทาสีขาวรองพื้น เพื่อเป็นการป้องกันความไม่กลมกลืนของสีและผนัง ซึ่งจะสังเกตุเห็นได้ชัด
หลังจากการติดวอลเปเปอร์